ช็อก อินเดียโดนฟ้าผ่าตายวันเดียว กว่าครึ่งร้อย บางรายตายขณะ’เซลฟี่’

 

แฟ้มภาพ ฟ้าผ่าเหนือท้องฟ้าในกรุงนิวเดลีเมื่อ 2 พ.ค. 2563 (Adil Abass/Barcroft Media via Getty Images)

เคราะห์ซ้ำ ชาวอินเดียถูกฟ้าผ่าตายวันเดียว กว่า 50 ศพ ในรัฐราชสถาน และอุตตรประเทศ บางรายตายขณะถ่ายรูปเซลฟี่ที่หอคอยบนป้อมโบราณอาเมร์

เกิดเหตุสลด ชาวอินเดียถูกฟ้าผ่าในรัฐราชสถาน และอุตตรประเทศ ทางภาคเหนือของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกฟ้าผ่าตายถึงอย่างน้อย 50 ศพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.64 โดยสื่อหลายแห่งรายงานว่า ที่รัฐราชสถาน ซึ่งมีทะเลทราย มีผู้เสียชีวิตประมาณ 11 ศพ และในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในอินเดีย มีผู้เสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตอย่างน้อย 42 ศพ

ตำรวจและนายอนันด์ ศรีวัสเทวา เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐราชสถาน เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าในรัฐราชสถาน ส่วนใหญ่เสียชีวิตบริเวณหอคอยของป้อมอาเมร์ โบราณสถานสมัยศตวรรษที่ 12 สถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อในเมืองอาเมร์ ใกล้เมืองชัยปุระ เมืองเอกของรัฐราชสถาน อีกทั้งมีผู้เสียชีวิตบางคนยังถูกฟ้าผ่าขณะกำลังถ่ายรูปเซลฟี่ใกล้กับหอคอยด้วย

เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เผยว่า เกิดฝนตกอยู่แล้ว ขณะมีประชาชนเบียดเสียดหลบฝนอยู่ในหอคอยต่างๆ บนป้อมอาเมร์ และช่วงที่เกิดฟ้าผ่า มีประชาชนประมาณ 30 คนอยู่บนหอคอย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ บาดเจ็บ 17 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย นอกจากนั้นทีมกู้ภัยในพื้นที่กำลังตรวจสอบในวันนี้ว่ามีคนถูกฟ้าผ่าจนร่างกระเด็นตกลงในคูเมืองด้านข้างหอคอยหรือไม่

ทั้งนี้ในแต่ละปีมีชาวอินเดียต้องเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่า เฉลี่ยปีละราว 2,000 ศพ เนื่องจากเกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรงในช่วงฤดูมรสุม  ขณะที่กองอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย รายงานด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตในประเทศจากการถูกฟ้าผ่าตาย เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ.

ที่มา : BBC , Channelnewsasia , thairath

แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/2138510

สุดช็อก ฟ้าผ่าเรือเจ้าบ่าว จะมาแต่งงานบ้านเจ้าสาวในบังกลาเทศ ดับ 17 ศพ

เมื่อ 5 ส.ค. 64 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ เรือขบวนงานแต่งฝ่ายเจ้าบ่าว มุ่งหน้าจะไปบ้านเจ้าสาว ถูกฟ้าผ่าขณะเรือเทียบท่า มีผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 17 ศพ บาดเจ็บอีกนับ 14 ราย รวมทั้งเจ้าบ่าว ได้รับบาดเจ็บด้วย

ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองชิบกันจ์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของบังกลาเทศ เผยว่า เรือของเจ้าบ่าวลำนี้ได้ถูกฟ้าผ่าขณะมาถึงท่าเรือในเมืองชิบกันจ์ และญาติพี่น้อง รวมทั้งคณะแขกของฝ่ายเจ้าบ่าวกำลังลงจากเรือเพื่อจะไปยังบ้านเจ้าสาว จนทำให้ผู้เสียชีวิตถึง 17 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 14 คน จนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

‘เราได้รับแจ้งเกิดเหตุฟ้าผ่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 17 ศพ และบาดเจ็บนับ 14 คน’ นายตำรวจในเมืองชิบกันจ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีชาวบังกลาเทศเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่า ปีละหลายร้อยราย จนทำให้ทางการบังกลาเทศประกาศให้การเกิดฟ้าผ่าถือเป็นภัยทางธรรมชาติในปี 2559 ซึ่งในเดือนพฤษภาคม เพียงเดือนเดียวของปีนั้น มีชาวบังกลาเทศถูกฟ้าผ่าตายกว่า 200 ศพ ซึ่งในจำนวนนี้ มีคนถูกฟ้าผ่าตายนับ 82 ศพ

CR : thairath.co.th

แหล่งที่มา สุดช็อก ฟ้าผ่าเรือเจ้าบ่าว จะมาแต่งงานบ้านเจ้าสาวในบังกลาเทศ ดับ 17 ศพ (thairath.co.th)

Measures and proactive checks to prevent the spread of covid 19

 

เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ในปัจจุบัน มีการแพร่กระจายเชื้อที่รวดเร็ว ทางบริษัท สตาบิล จำกัด ตระหนักถึง สถานการณ์ดังกล่าว จึงได้นำนโยบายการป้องกัน และควบคุมการแพร่กระจาย ตามหลักนโยบายภาครัฐ มาปรับใช้ในการ บริหารและจัดการและดำเนินงาน

 

– โดยมีการคัดกรอง วัดอุณหภูมิ
– กำหนดจุดล้างมือ เจลแอลกอฮอล์
– ใช้หลักการ Social Distancing ทั้งการทำงาน และการรับประทานอาหาร รักษาระยะห่าง
– จำกัดการใช้ห้องอาคาร รวมถึงการปฏิบัติงาน work from home
– การประชุมสรุปงาน ผ่านระบบออนไลน์
– การนำเทคโนโลยี ออนไลน์ มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน
– รวมถึงให้พนักงานทุกคนตรวจหาเชื้อ โควิด-19 เชิงรุก

 

และจากผลตรวจหาเชื้อตรวจหาเชื้อ โควิด-19 เชิงรุก ในวับริหารจัดการและดำเนินงานนที่ 5 สิงหาคม 2564 พนักงานสตาบิล ทุกคนปลอดเชื้อ
บริษัท สตาบิล จำกัด ขอขอบคุณพนักงาน ทุกท่าน ที่ตระหนักและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเราขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ หมอพยาบาลและบุคลากร ที่ต่อสู้กับวิกฤตในครั้งนี้

ฟ้าผ่า1.2หมื่นครั้งโหมไฟป่าแคนาดา – บริติชโคลัมเบียสังเวย “ฮีตเวฟ” ทะลุ700ราย


ฟ้าผ่า1.2หมื่นครั้งโหมไฟป่าแคนาดา – วันที่ 3 ก.ค. บีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่าในรัฐบริติชโคลัมเบีย ทางตะวันตกของแคนาดา หลังคลื่นความร้อน หรือฮีตเวฟ แผ่ตัวปกคลุมจนอุณหภูมิทุบสถิติของประเทศที่ 121.3 ฟาเรนไฮต์ (49.6 องศาเซลเซียส) ที่หมู่บ้านลิตตัน เมื่อวันอังคารที่ 29 มิ.ย.

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หน่วยงานไฟป่าบริติชโคลัมเบียเผยจำนวนไฟป่าทั้งหมด 136 จุด และฟ้าผ่าราว 12,000 ครั้ง ในวันพฤหับสดีที่ 1 ก.ค.
นายคลิฟฟ์ แชปแมน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริติชโคลัมเบีย กล่าวด้วยว่า ฟ้าผ่าหลายครั้งใกล้ชุมชนต่างๆ ขณะที่ผู้อยู่อาศัยหลายร้อยคนได้รับแจ้งเตือนว่าอาจต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

ส่วนรัฐบาลแคนาดาจะส่งเฮลิคอปเตอร์ทหารพร้อมกำลังพลเพื่อช่วยดับไฟป่าและช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยที่เผชิญอันตรายจากไฟป่า
ทั้งนี้ ไฟป่าไหม้หมู่บ้านลิตตัน ซึ่งอยู่ห่างจากนครแวนคูเวอร์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 260 กิโลเมตร บีบให้ผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 249 คน ต้องอพยพตามคำสั่งเมื่อเย็นวันพุธที่ 30 มิ.ย. และส่งผลให้ทางหลวงหลายสายทั้งเข้าและออกไม่สามารถใช้งานได้

CR : khaosod

แหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_6488319

แอร์พอร์ตเรลลิงก์ขัดข้อง ฟ้าผ่าระบบสายส่ง ผู้โดยสารรอแน่นล้นชานชาลา


แอร์พอร์ตลิงก์ขัดข้อง เหตุฟ้าผ่าระบบส่งไฟฟ้าขาดช่วงหัวหมาก-บ้านทับช้าง เดินรถได้ฝั่งเดียวตั้งแต่เย็นวานนี้ (13 ก.ค.) คาดแก้ไข 3 วัน ผู้โดยสารแน่นล้นสถานี บ่นอุบพังโค้งสุดท้ายก่อนส่งมอบ ซี.พี.

รายงานข่าวแจ้งว่า ระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์เรลลิงก์เกิดมีเหตุขัดข้องตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (13 ก.ค.) โดยทางเพจเฟซบุ๊ก Airport Rail Link ได้ชี้แจงว่าเกิดจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก ช่วง 18.00 น. 13 ก. ค. 2564 ทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าของขบวนรถไฟฟ้าช่วงสถานีสุวรรณภูมิขาเข้าเมือง ถึงสถานีหัวหมากขัดข้อง ทางศูนย์ควบคุมจึงใช้แผนเดินรถสำรอง ผู้โดยสารยังสามารถเดินทางได้ทุกสถานี แต่ช่วงสถานีหัวหมากถึงสุวรรณภูมิใช้ชานชาลาร่วมกัน จนปิดให้บริการ 21.00 น.

จากการเข้าตรวจสอบของฝ่ายซ่อมบำรุง พบว่าฟ้าผ่าลงระบบส่งไฟฟ้าทำให้สายส่งไฟฟ้า (Massenger Wire) ขาด ช่วงสถานีหัวหมากจนถึงสถานีบ้านทับช้าง ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน

ในการให้บริการ วันนี้ (14 ก.ค.) รถไฟฟ้าจะให้บริการตามแผนสำรองเป็นการชั่วคราว โดยให้บริการจากสถานีพญาไท-สถานีหัวหมาก ทุก 20 นาที และให้บริการจากสถานีหัวหมาก-สถานีสุวรรณภูมิ ทุก 30 นาที และจากสถานีสุวรรณภูมิจะให้บริการทุก 30 นาที

จากเหตุระบบขัดข้อง ซึ่งทำให้ความถี่ในการเดินรถมีระยะห่างมากขึ้น ทำให้ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ผู้โดยสารตกค้างในแต่ละสถานีจำนวนมาก และช่วงเช้าวันนี้จำนวนผู้โดยสารในแต่ละสถานีมีจำนวนสะสมหนาแน่น มีสภาพที่แออัด แม้ว่าจะเป็นช่วงที่มีมาตรการให้ Work from Home แต่ประชาชนส่วนหนึ่งยังคงมีความจำเป็นต้องเดินทาง

Cr: mgronline
แหล่งที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9640000068424

ฟ้าผ่าชาวนากลางทุ่ง หลังวิ่งหลบกระท่อม แต่ไม่ทันร่างไหม้เกรียม

นครพนมอากาศแปรปรวนหนัก ฟ้าผ่าชาวนากลางทุ่งหลังฝนตกหนัก พยายามวิ่งหลบกระท่อมแต่ไม่ทันถูกผ่าร่างจนตัวไหม้เกรียมเสียชีวิต ด้านอุตุฯ แจ้งเตือนเฝ้าระวังช่วงนี้เสี่ยงเกิดพายุฟ้าผ่า

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สภาพอากาศยังคงแปรปรวน มีอุณหภูมิร้อนจัดเกือบ 38-40 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบให้เกิดพายุฤดูร้อนแทบรายวัน โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ อ.ปลาปาก และ อ.ธาตุพนม มีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายต่อเนื่อง รวมกว่า 100 หลัง มีเสียหายหนักกกว่า 10 หลัง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งสำรวจ ให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูซ่อมแซมต่อเนื่อง บางรายต้องสูญเสียค่าซ่อมแซมเกือบแสนบาทบาท โดยทางสถานอุตุนิยมวิทยานครพนม ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ทั้ง 12 อำเภอ ให้เฝ้าระวัง หมั่นตรวจสอบดูแลอาคารบ้านเรือนให้มีความแข็งแรง ป้องกันพายุพัดถล่มได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังได้ประกาศเตือนให้ระมัดระวังเมื่อเกิดพายุฝน ฟ้าร้อง ให้หลบเข้าที่ปลอดภัย อย่าอยู่ในที่โล่งแจ้ง

ขณะเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุฝนฟ้าคะนอง และมีฟ้าผ่าคนเสียชีวิต บริเวณกระท่อมนา หมู่บ้านห้วยไห หมู่ที่ 17 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ภายหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.นพดล ป่าสนธ์ รอง สว.สอบสวบ สภ.โพนสวรรค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ แพทย์เวรโรงพยาบาลโพนสวรรค์ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ได้เข้าตรวจสอบชันสูตรศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายกมล ประกิ่ง อายุ 49 ปี เป็นชาวบ้านห้วยไห หมู่ที่ 17 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม สภาพศพยังอยู่ในชุดทำนา ไม่มีเครื่องประดับสร้อยคอ หรือนาฬิกาที่เป็นโลหะในร่างกาย สภาพร่างกายมีรอยไหม้เกรียมเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เนื่องจากฟ้าผ่า นอนเสียชีวิตข้างกระท่อมนา เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบชันสูตรเก็บหลักฐาน ก่อนให้ญาตินำไปดำเนินคดี

เบื้องต้นนางสุขใจ โทรัตน์ อายุ 48 ปี ภรรยาผู้เสียชวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายวันเดียวกัน สามีได้นำรถไถนาออกไปเตรียมหว่านกล้า ทำนาตามฤดูกาล เนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีฝนตกลงมาเกือบทุกวัน กระทั่งได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงกลางทุ่งนา หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง จึงไปทุ่งนาเพื่อดูสามีไถนา พบสามีอยู่ในสภาพนอนหงายหมดสติ สภาพร่างกายเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เกิดความตกใจ จึงเรียกชาวบ้านมาช่วยเหลือแต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว คาดว่าก่อนเกิดเหตุมีฝนตกฟ้าร้อง สามีจึงวิ่งเข้ามาหลบใกล้กระท่อมนา และถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝากแจ้งเตือนเกษตรกรให้ระมัดระวังในช่วงนี้ ฝนฟ้าคะนอง มีความเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่า รวมถึงพายุพัดถล่ม สร้างความเสียหาย และเกิดอันตรายแก่ชีวิตได้

Cr: ไทยรัฐออนไลน์

แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2089433

ควาญช้างเศร้า ฟ้าผ่าช้าง “พังบุญครอง” อายุ 40 ปี ค่าตัวกว่า 4 ล้านบาท

วันที่ 8 พ.ค. 64 นายสมนึก ตึดสันโดษ อายุ 46 ปี ควานช้าง กำลังไปนำช้างชื่อ “พังบุญครอง” อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นช้างนำเที่ยวของกิจการ “บ้านช้างพัทยา” ตั้งอยู่บริเวณหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงพบว่าช้างพังบุญครองนอนแน่นิ่งเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้โค่นต้นไม้ ตรวจสอบดูพบว่ามีรอยถูกฟ้าผ่า จนเป็นแผลรอยไหม้ ที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง จึงแจ้งให้ทางเจ้าของปางช้างและสัตวแพทย์มาตรวจสอบ

น.สพ.เผด็จ ศีริดำรง จากโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน พัทยา เปิดเผยว่า ช้างน่าจะถูกฟ้าผ่าขณะที่ฝนตกลงมาอย่างหนักช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะถูกล่ามไว้ในป่า อย่างไรก็ตามจะได้แจ้งไปจากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอบางละมุง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง

ด้านนายไพรรัตน์ ไชยยะคำ ประธานกรรมการหมู่บ้านช้างพัทยา กล่าวว่า รู้สึกเสียดายช้าง “พังบุญครอง” เป็นอย่างมาก เนื่องจากเลี้ยงมานานกว่า 40 ปี ราคาค่าตัวกว่า 4 ล้านบาท โดยหลังสถานการณ์โควิด ทางปางช้างก็จัดทำร้านกาแฟดูช้าง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวนิยมเป็นอย่างมาก และจะนำช้างที่มีอยู่จำนวน 14 เชือกเหล่านี้มาเดินให้นักท่องเที่ยวชมบรรยากาศหรือนั่งหลังช้างเพื่อการท่องเที่ยวจึงรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก

cr:Khaosod Online
แหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6386549

ฟ้าผ่าลงเถียงนา สาวโคราชเคราะห์ร้าย ดับคาที่ 2 อีก 3 รอด

 

ชาวบ้านที่ อ.บัวใหญ่ นครราชสีมา พากันไปนั่งในเถียงนา 5 คน เคราะห์ร้าย จู่ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมา มีหญิง 2 คน กระเด็นลงไปนอนเสียชีวิตคาที่ ส่วนอีก 3 รอด พบโทรศัพท์มือถือคนที่ตายถูกฟ้าผ่าพังเสียหาย

เวลา 16.00 น. วันที่ 22 เม.ย. พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ ผกก.สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นายสุวิช จั่นแค้น ผู้ใหญ่บ้านโนนเพ็ด หมู่ 8 ต.ด่านช้าง ว่ามีลูกบ้านตนเองไปนั่งที่เถียงนากัน 5 คน เป็นญาติกันทั้งหมด ได้ถูกฟ้าผ่าอยู่กลางทุ่งนา ตายคาที่ 2 ศพ ที่เหลืออีก 3 คน รอดตาย จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ถาวร รอดสร้อย สว.(สอบสวน) ไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยฮุก 31 บัวใหญ่

สำหรับผู้เสียชีวิต 2 ราย ชื่อนางลำไย มารศรี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.8 ต.ด่านช้าง และนางอัจฉรา นวลกระแส อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่บ้านเดียวกัน ม.8 สภาพเสื้อกางเกงฉีกขาด โดยที่โทรศัพท์มือถือของทั้งสองคน สภาพถูกฟ้าผ่าแตกหักเสียหายใช้การไม่ได้.

Cr: ไทยรัฐออนไลน์

แหล่งที่มา https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1827783

ฟ้าผ่าหนูน้อย กับหมา 3 ตัว ขณะนั่งเล่นใต้ต้นไม้ เปรี้ยงเดียวดับสลด

 

เปรี้ยงเดียวคร่า 4 ชีวิต สลดหนูน้อยวัย 7 ขวบ นั่งเล่นใต้ต้นสะเดากับสุนัขคู่ใจ 3 ตัว จู่ๆฟ้าผ่าเปรี้ยงเสียงดังสนั่น กระแสไฟแล่นเข้าร่างเด็กหญิงเสียชีวิต พร้อมแก๊งเพื่อนรักสี่ขา ยายเผยหลานสาวกำพร้าพ่อแม่ แม้ฐานะยากจนแต่ตั้งใจเลี้ยงให้เป็นคนดี ไม่คิดว่าจะต้องมาจบชีวิตอย่างอนาถเช่นนี้ อีกรายพายุหมุนหอบหลังคาโกดังน้ำมันหล่นทับรถกระบะดังโครม โชคดี 2 คนงานที่ซ่อนตัวในรถไม่ได้รับอันตราย

สลดหนูน้อยถูกฟ้าผ่าตายพร้อมสุนัขคู่ใจ 3 ตัว เปิดเผยเมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 20 เม.ย. พ.ต.ท.ชยันต์ สีเกี๋ยง สว. (สอบสวน) สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี รับแจ้งว่ามีเด็กถูกฟ้าผ่าตายบริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.สระโบสถ์ และกู้ภัยโคกสำโรง ที่เกิดเหตุอยู่ใต้ต้นสะเดาใกล้กระต๊อบเพิงพักสภาพเก่าที่ปลูกอยู่ริมไร่อ้อย มีเปลผ้าผูกอยู่ กิ่งสะเดาขนาดใหญ่หัก ใบสะเดาร่วงพื้นเกลื่อนและมีซากสุนัขนอนตาย 3 ตัว ส่วนผู้เสียชีวิตชื่อ ด.ญ.เจนจิรา หรือน้องเจน บัวใหญ่ อายุ 7 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 1 ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี มีรอยเขียวช้ำทั่วตัวไม่มีบาดแผล เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง

นางบุญปรางค์ จักรี อายุ 50 ปี ยายน้องเจน เล่าด้วยความเศร้าโศกเสียใจน้ำตานองหน้าว่า น้องเจนเป็นเด็กกำพร้าพ่อและแม่ ตนและสามีนำมาเลี้ยงกำลังอยู่ในวัยน่ารัก แม้ครอบครัวฐานะยากจนต้องอาศัยปลูกเพิงพักรับจ้างตัดอ้อยหาเช้ากินค่ำไปวันๆ แต่พยายามเลี้ยงน้องเจนให้ดีที่สุด ขณะนอนเล่นในเปลได้ยินเสียงดังเปรี้ยง และคล้ายอะไรหล่นใส่หัวมองไปปลายเท้าเห็นน้องเจนล้มลง เสียงสุนัขร้องระงมก่อนเงียบไปและขาดใจตายทั้ง 3 ตัว ไม่รู้ทำไมฟ้าผ่าลงมาได้ทั้งที่ต้นสะเดาไม่ได้สูงใหญ่อะไรมากนัก

เวลา 5 โมงเย็นวันเดียวกัน ฝ่ายป้องกันเทศบาลอำเภอบ้านหมี่ และมูลนิธิสว่างอริโยธรรม-สถาน เดินทางไปยังโกดังเก็บน้ำมันเพื่อการเกษตร บริษัท อิทธิพระพร เทรดดิ้ง หมู่ 5 ต.หนองเต่า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี หลังจากพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำรุนแรง หลังคาเมทัลชีทของบริษัทปลิวไปตามลมไกลกว่า 400 เมตร และมีผู้ถูกหลังคาทับติดอยู่ในรถยนต์ยังออกมาไม่ได้ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุต้องพบอุปสรรคต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับเส้นทาง ต้องระดมพลช่วยกันตัดต้นไม้ออกอย่างทุลักทุเล เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบโครงหลังคา และแผ่นเมทัลชีทกระจายเกลื่อน นางมณีรัตน์ ปัญญา อายุ 56 ปี ผู้ดูแลเล่าว่า ก่อนฝนตกมีพายุหมุนพัดมารุนแรงทุกคนต่างวิ่งหนีเข้าไปภายในบ้านเอาชีวิตรอด แต่ยังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากโครงหลังคาอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ช่วยกันรื้อซาก กระทั่งพบชาย 2 คนนอนหลบอยู่ในรถกระบะ

นายคุณากร แจ่มโพกุล อายุ 34 ปี คนงานที่ติดอยู่รถกระบะเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุพายุหมุนเสียงลั่นของโครงหลังคาดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ตกใจมากไม่รู้ว่าจะวิ่งไปหลบที่ไหนดี เพราะมีแต่เศษสิ่งของปลิวกระจายเกลื่อน ก่อนจะถูกหลังคาทับ เพื่อนคนงานได้ตะโกนเรียกให้เข้าไปหลบในรถกระบะ จากนั้นเห็นโครงหลังคาถูกลมหอบมาหล่นโครมใส่รถจนมองอะไรไม่เห็น โชคดีที่ไม่ได้รับอันตราย แต่ยอมรับว่าตกใจสุดขีด ในชีวิตไม่เคยเห็นพายุพัดรุนแรงขนาดนี้มาก่อน จากการประเมินความเสียหายในเบื้องต้นคาดไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

Cr: ไทยรัฐออนไลน์

แหล่งที่มา https://www.thairath.co.th/news/local/central/2073505

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 66 จังหวัด ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุนิยมวิทยา” รายงาน “พยากรณ์อากาศ” ระบุ ทั่วไทยตอนบนมีอากาศร้อน กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่า และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางแห่ง
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 64 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศประจำวัน ลักษณะอากาศทั่วไปพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศเมียนมาเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย

ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่า และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีลมตะวันออกเฉียงใต้ และลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ฝุ่นละอองขนาดเล็กในระยะนี้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในบางพื้นที่ จึงทำให้การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง

กลับสู่ด้านบน