แคดดี้โดนฟ้าผ่ากลางสนามกอล์ฟ เสียชีวิตแล้ว ⁣

ฟ้าผ่าสนามกอล์ฟจากกรณีฟ้าผ่า “น้องหลิง” แคดดี้สาวกลางสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ สน.คลองสามวา ซึ่งมีการส่งไปรักษาตัวที่ รพ.สินแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา⁣นั้น

⁣ล่าสุด (23 ก.ย. 68) เหลือเฟือ มกจ๊ก ตลกชื่อดัง พร้อมกับพ่อใหญ่อุบล ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมนักแสดงช่องเหลือเฟือ แชนแนล ได้ออกมาโพสต์คลิปถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า น้องหลิง แคดดี้ที่ถูกฟ้าผ่า เป็นลูกสาวของพ่อใหญ่อุบล ซึ่งพ่อใหญ่อุบลกับตนก็เหมือนพี่น้องกัน จึงขอแจ้งข่าวว่าตอนนี้น้องหลิง เสียชีวิตแล้ว จะมีพิธีรดน้ำศพ ณ วัดแป้นทองโสภาราม หทัยราษฎร์ 39 เวลา 16.00 น. ในวันนี้⁣ (23 ก.ย. 68)

ข้อมูลจาก แฟนเพจ เหลือเฟือ ชาแนล1

คุณลักษณะของ TOVs withstand mode และ TOVs protection mode

tovs

คุณลักษณะของ TOVs withstand mode และ TOVs protection mode

ก่อนอื่นต้องเข้าใจความหมายของคำว่า Withstand mode และ Protection mode ก่อน ดังนี้คือ

  • Withstand mode หมายถึง แบบของการทนต่อ …………………ได้
  • Protection mode หมายถึง แบบของการป้องกันต่อ …………..ได้

ดังนั้น คุณลักษณะของ TOVs withstand mode หมายถึง การทนต่อไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs ) ได้กล่าวคือ เมื่อมีแรงดันไฟฟ้าแบบ TOVs เข้ามาที่อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD : Surge Protective Device ) เช่น 700 Volt 50 Hz. นาน 0.5 วินาที ตัวอุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) นี้จะต้องทนต่อ TOVs นี้ โดยไม่มีคุณสมบัติในการตอบสนอง TOVs ที่เหมาะสม กล่าวคือ “ ไม่ทำการป้องกัน ” รวมถึงปล่อยผ่านไปเลย ที่แรงดันไฟฟ้า TOVs นี้ (ประมาณ 700 Volt 50 Hz. นาน 0.5 วินาที ศัพท์ทางวิชาการเรียกว่า Let Through Voltage ) แต่ทั้งนี้อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) ที่ต่อป้องกันอยู่ อาจจะไม่สามารถรับพลังงานส่วนเกิน TOVs นี้ได้ จนเกิดความเสียหายตามที่ได้ถูกกล่าวไว้ในมาตรฐาน ANSI/IEEE C62.41.1–2002.ส่วนคุณลักษณะของ TOVs protection mode หมายถึง การป้องกันต่อไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs )

กล่าวคือ เมื่อมีแรงดันไฟฟ้าแบบ TOVs เข้ามาที่อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD : Surge Protective Device ) เช่น 700 Volt 50 Hz. นาน 0.5 วินาที ตัวอุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) ก็จะทำการป้องกัน โดยทำให้แรงดัน TOVs นี้มีค่าลดลง เช่น ลดลงเหลือน้อยกว่า 265 Volt 50 Hz. นาน 0.5 วินาที ( Let Through Voltage )และปล่อยผ่านไปที่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) โดยไม่เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ( SPD )  และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) ที่ต่ออยู่หลังอุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงและระยะเวลาของ TOVs ที่เกิดขึ้น รวมถึงความเปราะบางของ Loads นั้นๆ ด้วย

 

หมายเหตุ :

ในทำนองเดียวกัน Transient protection mode หมายถึง การป้องกันต่อไฟกระโชกแบบช่วงสั้น( Transient ) กล่าวคือ เมื่อมีแรงดันไฟฟ้าแบบ Transient เข้ามาที่อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) เช่น 6,000 Volt at   µSec. ตัวอุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD : Surge Protective Device ) ก็จะทำการป้องกันโดยทำให้แรงดัน Transient นี้มีค่าลดลง เช่น ลดลงเหลือน้อยกว่า 1,500 Volt ( ศัพท์ทางวิชาการเรียกว่า Residual Voltage ) และปล่อยผ่านไปที่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) โดยไม่เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD )  และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) ที่ต่ออยู่หลังอุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงและระยะเวลาของ Transient ที่เกิดขึ้น รวมถึงความเปราะบางของ Loads นั้นๆ ด้วย

เสิร์จ ( Surge ) ทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) ได้อย่างไร ?

ไฟกระชาก

เสิร์จ ( Surge ) ทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) ได้อย่างไร ?

เนื่องจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) ในประเทศไทย จะใช้งานได้อย่างปกติที่แรงดันไฟฟ้า230 โวลต์ ± 15% ( คือระหว่าง 195.5 – 264.5 โวลต์ ) ในกรณีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 195.5 โวลต์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) อาจจะใช้งานไม่ได้ หรือได้รับความเสียหาย แต่ถ้าเป็นกรณีแรงดันไฟฟ้าสูงกว่า 264.5 โวลต์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) จะเกิดความเสียหายสถานเดียว  เนื่องจากเสิร์จ ( Surge ) เป็นแรงดันไฟฟ้าเกินชั่วขณะ ที่มีค่าแรงดันไฟฟ้าสูงมากๆ อาจเป็นพัน เป็นหมื่นหรือเป็นแสนโวลต์ได้ ดังที่กล่าวไว้แล้ว ดังนั้น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) ย่อมเกิดความเสียหายที่แรงดันไฟฟ้าเสิร์จ ( Surge ) นี้ แต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงและระยะเวลาของเสิร์จ ( Surge )ที่เกิดขึ้น รวมถึงความเปราะบางของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ ด้วย

จะทำการป้องกันเสิร์จ ( Surge ) ได้อย่างไร ?  

จะทำการป้องกันเสิร์จ ( Surge ) ได้อย่างไร ?  

โดยทั่วไปแล้วสามารถทำการป้องกันเสิร์จ ( Surge ) ได้ด้วย “ อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD : SurgeProtective Device ) ” ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกัน ดังนี้คือ เมื่อต่ออุปกรณ์ป้องกันเสิร์จแบบขนานเข้ากับระบบไฟฟ้า 230 โวลต์แล้ว ในกรณีที่มีเสิร์จ ( Surge ) เกิดขึ้น ตัวอุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) จะทำการป้องกันโดยการปรับค่าความต้านทางไฟฟ้าของตัวมันเองอย่างทันทีทันใด ด้วยความเร็วน้อยกว่า 25 nSec.( 0.000000025 วินาที ) แล้วทำการรับพลังงานของเสิร์จ ( Surge ) นี้ เข้ามาที่ตัวมันเอง และ/หรือ เอาไปทิ้งผ่านสายดินลงหลักดินไป ส่งผลให้แรงดันไฟฟ้าเกิน ( Surge ) นี้ มีค่าแรงดันไฟฟ้าลดลงเหลือน้อยๆ หลุดไปที่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( ศัพท์ทางวิชาการเรียกว่า Residual Voltage หรือ Let Through Voltage )ซึ่งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( Loads ) เหล่านี้ จะเกิดความเสียหายหรือไม่นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงและระยะเวลาของเสิร์จ ( Surge ) ที่เกิดขึ้น รวมถึงความเปราะบางของ Loads นั้นๆ ด้วย

อนึ่ง โดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) จะมีคุณสมบัติในการป้องกันไฟกระโชกแบบช่วงสั้น( Transient ) ได้เป็นอย่างดี ( Transient protection mode ) แต่ไม่สามารถป้องกันไฟกระโชกแบบช่วงยาว( TOVs ) ได้ โดยสามารถทนต่อ TOVs ได้แทน ( TOVs withstand mode ) ดังนั้นในการเลือกซื้ออุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ ( SPD ) จึงควรเลือกซื้อรุ่น ( Model ) ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันไฟกระโชกทั้งแบบช่วงสั้น ( Transient ) และแบบช่วงยาว ( TOVs ) ได้ในตัวเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อย่างสูงสุด

( สามารถรับชม VDO การป้องกันนี้ได้ที่ Youtube )

เสิร์จ ( Surge ) คืออะไร ? และมีกี่แบบ ?

เสิร์จ คืออะไร

เสิร์จ ( Surge ) คืออะไร ? และมีกี่แบบ ?

เสิร์จ ( Surge ) คือ แรงดันไฟฟ้าเกินชั่วขณะ ที่มีค่าสูงมากๆ และเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่นการเกิดฟ้าผ่า ฟ้าแลบ การเปิด-ปิด อุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ ระบบไฟฟ้าติดติด-ดับดับหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด และการลัดวงจรของระบบสายส่งไฟฟ้ากำลัง เป็นต้นโดยเหนี่ยวนำปะปนเข้ามาทางสายตัวนำไฟฟ้า ที่จ่ายให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น
เครื่องปรับอากาศ, TV, เครื่องเสียง, ตู้เย็น, ชุดโฮมเธียเตอร์, CCTV, คอมพิวเตอร์, เครื่องซักผ้าและเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งอาจมีผลทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าวที่ต่อใช้งานอยู่ได้รับความเสียหายได้ เนื่องจากได้รับแรงดันไฟฟ้าเกิน ( Surge )เราสามารถแบ่งคุณลักษณะของเสิร์จ ( Surge ) ออกเป็น 2 แบบคือ

1. ไฟกระโชกแบบช่วงสั้น ( Transient ) หมายถึง สภาวะการเกิดแรงดันไฟฟ้าเกินชั่วขณะ โดยอาจจะมีค่าสูงมากกว่า 1,000 โวลต์ ขึ้นไป และมีระยะเวลาในการเกิด ที่สั้นมากๆ เช่น เศษหนึ่งส่วนล้าน ( 1  ⁄ 1,000,000 ) ของวินาที เป็นต้น
2.ไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs : Temporary Over Voltages หรือ SWELL ) เป็นสภาวะการเกิดแรงดันไฟฟ้าเกินชั่วขณะ โดยอาจมีค่าต่ำกว่า 1,000 โวลต์ แต่มีระยะเวลาในการเกิด ที่ยาวนานกว่า เช่น เศษหนึ่งส่วนพัน ( 1  ⁄ 1,000  ) ของวินาที จนถึงหลายวินาที เป็นต้น

ซึ่งการเกิดไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs ) นี้ แม้ค่าการเกิดแรงดันไฟฟ้าเกิน จะมีค่าต่ำกว่าการเกิดไฟกระโชกแบบช่วงสั้น ( Transient ) ก็ตาม แต่เนื่องจากระยะเวลาการเกิด
ที่ยาวนานมากกว่า จึงมีพลังงานมากพอที่จะทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ต่อใช้งานอยู่ เกิดความเสียหายได้มากกว่า

(Thai) 5 ข้อดี ของการติดตั้ง SiPAD เสียบตรงไหนป้องกันตรงนั้น

5 ข้อดี ของการติดตั้ง SiPAD เสียบตรงไหนป้องกันตรงนั้น

  1. SiPAD มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย ติดได้ด้วยตัวเอง

ครั้งแรก” ที่อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก (Surge Protector) มีขนาดเล็ก สะดวกและติดใช้งานได้ง่ายด้วยตัวท่านเอง

  1. SiPAD ป้องกันสูงสุดด้วย STOV Technology

STOV Technology ป้องกันไฟกระโชกช่วงสั้น และช่วงยาว ได้ในตัวเดียวกัน

  1. SiPAD ผลิตจากวัสดุไม่ลามไฟ

ตัวอุปกรณ์เป็นพลาสติกชนิดพิเศษไม่ลามไฟ

  1. SiPAD ไม่จำกัดจำนวนโหลด

เครื่องใช้ไฟฟ้าจุดที่เสียบกับไซแพด จึงได้รับการป้องกันทั้งหมด

  1. SiPAD ได้รับการขึ้นทะเบียน บัญชีนวัตกรรมไทย

มั่นใจในคุณภาพไซแพดได้รับการขึ้นทะเบียน บัญชีนวัตกรรมไทย จากสำนักงาน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.stabil.co.th/products/sipad/sipad-portable-surge-protector/

VDO 5 ข้อดีของการติดตั้ง SiPAD

(Thai) 5ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คิดว่าป้องกันไฟกระโชกได้

 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คิดว่าป้องกันไฟกระโชกได้

 

  • 1. UPS ป้องกันไฟกระโชกได้หรือไม่ ?

หน้าที่หลักของ UPS คือสำรองไฟฟ้าเวลาไฟดับ และตัว UPS เองเปรียบเสมือนเป็นโหลดตัวหนึ่ง ซึ่งอาจได้รับความเสียหายจากไฟกระโชกได้ รวมถึงโหลดที่ต่อใช้งานกับ UPS ก็อาจได้รับความเสียหายจากไฟกระโชกได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่ง UPS บางรุ่น ระบุว่า Built-in Surge Protector  เพื่อป้องกันไฟกระโชกแล้ว แต่ก็เป็นเพียงการเพิ่มอุปกรณ์ MOV ตัวเล็กๆ ในวงจร เพื่อใช้ในการป้องกันไฟกระโชกแบบช่วงสั้น Transient ในเบื้องต้นเท่านั้น จึงจำเป็นที่จะต้องหาอุปกรณ์ Surge Protector ที่ป้องกันได้ทั้งไฟกระโชกแบบช่วงสั้น Transient และไฟกระโชกแบบช่วงยาว TOVs มาต่อไว้หน้า UPS เพื่อเป็นการป้องกัน UPS ไม่ให้ได้รับความเสียหายจากไฟกระโชก

  • 2. Stabilizer ป้องกันไฟกระโชกได้หรือไม่ ?

หน้าที่หลักของ Stabilizer คือปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ กรณีเกิด Over voltage หรือ Under voltage แต่ไม่สามารถป้องกันไฟกระโชกได้ เนื่องจากไฟกระโชกเกิดขึ้นรวดเร็วมาก (มีความเร็วเศษหนึ่งส่วนล้านของวินาที) ซึ่งอุปกรณ์ Stabilizer ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ทำให้ตัว Stabilizer รวมถึงโหลดที่ต่อใช้งานกับ Stabilizer ก็อาจได้รับความเสียหายจากไฟกระโชกได้ จึงจำเป็นที่จะต้องหาอุปกรณ์ Surge Protector ที่ป้องกันได้ทั้งไฟกระโชกแบบช่วงสั้น Transient และไฟกระโชกแบบช่วงยาว TOVs มาต่อไว้หน้า Stabilizer เพื่อเป็นการป้องกัน Stabilizer และโหลดไม่ให้ได้รับความเสียหายจากไฟกระโชก

  • 3. อุปกรณ์ป้องกันไฟดูด / RCBO / ELCB ป้องกันไฟกระโชกได้หรือไม่ ?

หน้าที่หลักของ อุปกรณ์ป้องกันไฟดูด / RCBO / ELCB คือป้องกันไฟดูดไฟรั่ว ซึ่งจะตัดไฟกรณีที่เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วลงดินเท่านั้นทำให้ผู้ใช้งานไม่ได้รับอันตรายจากการโดนไฟฟ้าดูด ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่ในการป้องกันไฟกระโชก จึงทำให้โหลดที่ต่อใช้งานอยู่ยังคงได้รับความเสียหายจากไฟกระโชกได้

  • 4. Circuit Breaker ป้องกันไฟกระโชกได้หรือไม่ ?

หน้าที่หลักของ Circuit Breaker ทำหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้าออกจากระบบไฟฟ้า ในกรณีไฟฟ้าลัดวงจร หรือ ใช้กระแสไฟฟ้าเกินพิกัด  ซึ่งอุปกรณ์ Circuit Breaker นี้ทำงานโดยใช้หลักการของ Bi-metal ซึ่งเมื่อเกิดการลัดวงจรไฟฟ้า หรือใช้กระแสไฟฟ้าเกินพิกัดจะเกิดความร้อนที่โลหะ Bi-metal ซึ่งโลหะ Bi-metal นี้จะโก่งตัวไม่เท่ากันเมื่อเกิดความร้อนและจะตัดวงจรออกจากระบบไฟฟ้า ซึ่งคุณลักษณะการทำงานของ Circuit Breaker เช่นนี้ ไม่สามารถป้องกันไฟกระโชกได้ เพราะกระแสไฟกระโชก จะต้องไหลผ่าน Circuit Breaker เข้าไปในระบบไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ตัว Circuit Breaker ถึงจะเริ่มเกิดความร้อนแล้วตัดวงจรไฟฟ้าออกจากระบบไฟฟ้า นั่นหมายความว่า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (Loads) ได้พังเสียหายไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ Circuit Breaker จะตัดวงจรออก

  • 5. Fuse ป้องกันไฟกระโชกได้หรือไม่ ?

หน้าที่หลักของ Fuse คือ ทำหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้าออกจากระบบไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดกระแสไฟฟ้าเกินพิกัด หรือ เกิดไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน Fuse มากเกินไป Fuse จะร้อนแล้วขาด เพื่อตัดวงจรออกจากระบบไฟฟ้า  ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (Loads) พังเสียหายมากไปกว่านี้ หรือ ลุกไหม้ติดไฟได้ ซึ่งคุณลักษณะการทำงานของ Fuse เช่นนี้ ไม่สามารถป้องกันไฟกระโชกได้ เพราะกระแสไฟกระโชก จะต้องไหลผ่าน Fuse เข้าไปในระบบไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ตัว Fuse ถึงจะเริ่มเกิดความร้อนแล้วขาดออก นั่นหมายความว่า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (Loads) ได้พังเสียหายไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ Fuse จะขาดออก

อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก ต้องใช้ Surge Protector ที่มีคุณสมบัติป้องกันทั้งไฟกระโชกช่วงสั้น ( Transient ) และไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs ) ได้

Vdo 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คิดว่าป้องกันไฟกระโชกได้

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.stabil.co.th/surge-protector-hopad

เครื่องป้องกันไฟกระชาก

วิธีป้องกันไฟกระชาก

(Thai) 5 ความเสี่ยงจากไฟกระโชก หรือ ไฟกระชาก

5 ความเสี่ยงจากไฟกระโชก หรือ ไฟกระชาก

  1. ความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า

    ไฟกระโชกสามารถทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ได้รับความเสียหายจากไฟกระโชก

  2. ระบบอินเตอร์เน็ตล่ม

    ไฟกระโชกสามารถทำลายอุปกรณ์ Computer Network อุปกรณ์เชื่อมต่อ Internet ทำให้การสื่อสารล้มเหลว

  3. การเกิดอัคคีภัย

    ไฟกระโชกที่รุนแรงอาจทำให้แผงวงจรเครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดความร้อนสูงเกินไปจนอาจเกิดไฟไหม้ได้

  4. การลดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

    ในบางกรณีไฟกระโชกอาจจะไม่ทำให้อุปกรณ์เสียหายทันที แต่อาจส่งผลให้วงจรภายในของอุปกรณ์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

  5. การสูญเสียข้อมูลสำคัญ

    สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดไดรฟ์หรือเซิร์ฟเวอร์ หากเกิดไฟกระโชก ข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในระบบอาจเสียหายได้

VDO 5 ความเสี่ยงจากไฟกระโชก หรือ ไฟกระชาก

HoPAD

hopad
HoPAD

5 ข้อดี  ของการติดตั้ง HoPAD ติดตั้งตัวเดียวป้องกันทั้งบ้าน

1) HoPAD (โฮมแพด) ป้องกันไฟกระชาก ไฟกระโชก หรือ SURGE ได้ทั้งแบบช่วงสั้น และช่วงยาว ติดตั้งตัวเดียว ป้องกันทั้งบ้าน

ช่วยป้องกันไฟกระโชก ไฟกระชาก หรือ surge ที่อาจเกิดจากฟ้าผ่า( ไฟกระโชกช่วงสั้น ) ไฟติดๆ ดับๆ ( ไฟกระโชกช่วงยาว ) ซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า ได้รับความเสียหายขัดข้อง

2) HoPAD (โฮมแพด) ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า

ช่วยลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์ไฟฟ้าจะเสียหายก่อนเวลา ทำให้อุปกรณ์สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น

3) HoPAD (โฮมแพด) ป้องกันข้อมูลสูญหาย

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล เช่น คอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ ช่วยลดความเสี่ยงของข้อมูลสูญหาย เนื่องจากไฟกระโชกได้

4) HoPAD (โฮมแพด) ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว

แม้ว่าการติดตั้ง HoPAD อาจมีค่าใช้จ่ายในตอนแรก แต่การป้องกันอุปกรณ์จากความเสียหายจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้

5) HoPAD (โฮมแพด) ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

เนื่องจากอุปกรณ์ป้องกัน HoPAD เป็นการต่อขนานกับระบบ จึงไม่จำกัดจำนวนโหลดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจึงได้รับการป้องกันทั้งหมด

ข่าวเศร้า ผู้รักษาประตูถูกฟ้าผ่ากลางสนามบอล ที่บ้านฉาง ระยอง

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลา ประมาณ 12.00น. มูลนิธิพุทธธรรมสงเคราะห์บ้านฉาง ได้รับแจ้งจากวิทยุ ให้เข้ารับผู้ป่วยที่ถูกสายฟ้าผ่า ณ สนามฟุตบอลหน้าโรงพักบ้านฉาง จึงได้รีบเข้าช่วยเหลือ พบเป็นชายผู้รักษาประตู นอนหงายคาสนาม ไร้ชีพจร จึงได้ช่วยให้การปั๊มหัวใจจนชีพจรกลับคืนมา และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านฉาง ทีมแพทย์ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลจนมีอาการรู้สึกตัวแต่ชีพจรยังคงต่ำ จึงได้นำตัวส่งต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มาบตาพุด แพทย์ได้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด จนในเวลาต่อมาผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตลง

ทราบชื่อ คือ นายกิติศักดิ์ ฟูฟุ้ง หรืออาร์ท อายุ 35 ปี เป็นผู้รักษาประตูที่เข้าสู่วงการฟุตบอล อนาคตกำลังไปได้ดี เป็นมือหนึ่งของการเป็นผู้รักษาประตูเดินสายเล่นบอล ก่อนเกิดเหตุได้ลงเล่นที่สนามฟุตบอลบ้านฉาง โดยการจัดของ สภ.บ้านฉาง ซึ่งจัดเป็นครั้งแรก ดาวพิทักษ์ โอเพ่นคัพ ชิงเงินรางวัล 50,000บาท การแข่งขันถูกจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 12-14 ต.ค. ทำให้การแข่งขันเป็นอันต้องยุติ ส่วนสาเหตุของฟ้าผ่าลงมาบริเวณสนามยังไม่ทราบสาเหตุ ว่าเกิดจากสายฟ้าหรือมีเหตุอย่างอื่นด้วยหรือไม่

นายเจษฎากร กู้ภัยพุทธธรรมบ้านฉาง ที่ได้รับแจ้ง เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งก็เดินทางมาช่วยเหลือ พบว่าผู้บาดเจ็บไม่มีชีพจรจึงส่งต่อยัง รพ.สมเด็จพระเทพฯ แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะชมการแข่งขันระบุว่า ระหว่างที่แข่งอยู่นั้น ฝนตกลงมาอย่างหนักแต่เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะหมดเวลา จู่ๆ เกิดมีฟ้าผ่าลงมาเป็นสายที่บริเวณตึกริมถนนสุขุมวิทหลังโกล์ ทำให้นายกิตติศักดิ์ที่ยืนใกล้ที่สุดล้มลงไปนอนกับพื้น มีอาการเกร็งที่มือและเท้า หมดสติ ทุกคนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะถูกส่งตัวไป รพ. สุดท้ายต้องมาจบชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนศพญาติได้กำหนดรดน้ำที่วัดโพธิ์ทองพุทธาราม ต.ทางเกวียน อ.แกลง ระยอง บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต

ขอขอบคุณข่าวจาก https://www.thaich8.com/news_detail/138439

ทำไมจึงจำเป็นที่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า ไฟกระโชก ไฟกระชาก สำหรับ Load Cell

ทำไมจึงจำเป็นที่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า
ไฟกระโชก ไฟกระชาก สำหรับ Load Cell

loadcell

Load Cell ( โหลดเซลล์ ) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดค่าแรงทางกล หลักการทำงานคือเมื่อมีแรงกระทำต่อ Load Cell แรงทางกลจะเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้า โดยสัญญาณจะถูกนำมาประมวลผลและส่งไปยังหน้าจอ

ในภาคอุตสาหกรรม Load Cell ได้กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกระบวนการที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การวัดน้ำหนักของสินค้า, การควบคุมปริมาณสารเคมีในการผลิต เป็นต้น แต่อุปกรณ์เหล่านี้ค่อนข้างเปราะบางและเสียหายได้ง่ายจากความไม่เสถียรหรือความผิดปกติของระบบไฟฟ้าเมื่อมีฟ้าผ่าหรือการลัดวงจรของระบบส่งกำลังไฟฟ้า หรือการปิด-เปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ส่งผลให้มีแรงดันเกินเข้ามาในระบบไฟฟ้า ทั้งในรูป ไฟกระโชกแบบช่วงสั้น ( Transient ) และไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs ) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจสร้างความเสียหายทางตรงให้กับอุปกรณ์ Load Cell ซึ่งทำให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมและจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ทดแทน นอกจากนี้ยังมีความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยทางอ้อม เช่น Load Cell เกิดการเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ความเสียหายทางธุรกิจที่มี่มูลค่าความเสียหายมากมาย สุดที่จะประเมินค่าได้

ตามมาตรฐาน IEEE และ IEC ไฟกระโชกหรือไฟกระชาก ที่เกิดในสภาพเป็นจริงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ไฟกระโชกแบบช่วงสั้น ( Transient ) สาเหตุเกิดมาจาก ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ปรากฏการณ์ฟ้าผ่า และไฟกระโชกแบบช่วงยาว Temporary Over Voltages ( TOVs ) สาเหตุเกิดจากหลายอย่าง เช่น ไฟฟ้าติดๆดับๆ, อุบัติเหตุทางสายส่งไฟฟ้า, การปิด-เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นต้น ไฟกระโชกแบบช่วงสั้น ( Transient ) นี้ เป็นการเกิดสภาวะไฟเกินที่เข้ามาในระบบไฟฟ้าโดยเฉียบพลัน โดยอาจมีค่าสูงมากกว่า 1000 โวลท์ขึ้นไปแต่มีระยะเวลาในการเกิดที่สั้นมากๆ เช่น เศษ 1 ส่วน ล้านของวินาที เป็นต้น ไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs ) เป็นการเกิดสภาวะไฟเกินที่เข้ามาในระบบไฟฟ้าโดยเฉียบพลัน โดยค่าการเกิดไฟเกินนั้นอาจมีค่าต่ำกว่า 1000 โวลท์ แต่มีระยะเวลาในการเกิดยาวนานกว่าเช่น จาก 1 ส่วนพันของวินาที จนถึงหลายวินาทีเป็นต้น ซึ่งการเกิดไฟกระโชกแบบช่วงยาว ( TOVs ) นี้แม้ค่า Voltages จะต่ำกว่าการเกิดไฟกระโชกแบบช่วงสั้น ( Transient ) ก็ตาม แต่เนื่องจากระยะเวลาการเกิดที่ยาวนานกว่ามาก จึงมีพลังงานมากพอที่จะทำให้อุปกรณ์ฯ เสียหายได้
ด้วยปัญหาต่างๆเหล่านี้ บริษัท สตาบิล จำกัด ได้คิดค้นนวัตกรรมที่ใช้ในการป้องกันฟ้าผ่าไฟกระโชกสำหรับอุปกรณ์ Load Cell ขึ้นมา

Surge Block เป็นนวัตกรรมของ บริษัท สตาบิล จำกัด เพื่อใช้ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ( 230 VAC 50 HZ ) เช่น คอมพิวเตอร์, ปริ้นเตอร์, จอแสดงผล, INDICATOR ของ Load Cell เป็นต้น ไม่ให้ได้รับความเสียหายจากฟ้าผ่า ไฟกระโชก, แรงดันไฟฟ้าเกินชั่วขณะ, แรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่เกิดจากการเปิด–ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ หรือเกิดการลัดวงจรของระบบไฟฟ้าแรงสูง เป็นต้น ด้วย STOV Technology ซึ่งมีคุณสมบัติที่ป้องกันทั้งไฟกระโชกแบบช่วงสั้น ( Transient ) และไฟกระโชกแบบช่วงยาว( TOVs ) ได้ในตัวเดียวกันโดยใช้ตัวป้องกันชนิด MOV ยี่ห้อ TDK ( เดิมยี่ห้อ SIEMENS ) คุณภาพสูง มาตรฐาน UL และ CSA
Surge Protector Load Cell เป็นนวัตกรรมของ บริษัท สตาบิล จำกัด ใช้ป้องกันไฟกระโชกได้ มี SSAP Technology ในการป้องกันแรงดันเกินและกระแสเกินได้ในตัวเดียวกัน และมีคุณสมบัติในการตัดวงจรที่รวดเร็วเพียง 1/1000 วินาที เท่านั้น มี Resettable Funtion ที่มีหน้าทีตัดวงจรเมื่อมีไฟกระโชกรุนแรงเข้ามาในระบบ และยังสามาถ Reset อุปกรณ์ให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง ที่สำคัญคือติดตั้งและบำรุงรักษาง่าย
ด้วยนวัตกรรมต่างเหล่านี้ของ บริษัท สตาบิล จำกัด จึงมั่นใจได้ว่า อุปกรณ์Load Cell จะได้รับการป้องกันอย่างปลอดภัย

Posted in faq
STABIL
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.