ฟ้าผ่าหนูน้อย กับหมา 3 ตัว ขณะนั่งเล่นใต้ต้นไม้ เปรี้ยงเดียวดับสลด

 

เปรี้ยงเดียวคร่า 4 ชีวิต สลดหนูน้อยวัย 7 ขวบ นั่งเล่นใต้ต้นสะเดากับสุนัขคู่ใจ 3 ตัว จู่ๆฟ้าผ่าเปรี้ยงเสียงดังสนั่น กระแสไฟแล่นเข้าร่างเด็กหญิงเสียชีวิต พร้อมแก๊งเพื่อนรักสี่ขา ยายเผยหลานสาวกำพร้าพ่อแม่ แม้ฐานะยากจนแต่ตั้งใจเลี้ยงให้เป็นคนดี ไม่คิดว่าจะต้องมาจบชีวิตอย่างอนาถเช่นนี้ อีกรายพายุหมุนหอบหลังคาโกดังน้ำมันหล่นทับรถกระบะดังโครม โชคดี 2 คนงานที่ซ่อนตัวในรถไม่ได้รับอันตราย

สลดหนูน้อยถูกฟ้าผ่าตายพร้อมสุนัขคู่ใจ 3 ตัว เปิดเผยเมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 20 เม.ย. พ.ต.ท.ชยันต์ สีเกี๋ยง สว. (สอบสวน) สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี รับแจ้งว่ามีเด็กถูกฟ้าผ่าตายบริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.สระโบสถ์ และกู้ภัยโคกสำโรง ที่เกิดเหตุอยู่ใต้ต้นสะเดาใกล้กระต๊อบเพิงพักสภาพเก่าที่ปลูกอยู่ริมไร่อ้อย มีเปลผ้าผูกอยู่ กิ่งสะเดาขนาดใหญ่หัก ใบสะเดาร่วงพื้นเกลื่อนและมีซากสุนัขนอนตาย 3 ตัว ส่วนผู้เสียชีวิตชื่อ ด.ญ.เจนจิรา หรือน้องเจน บัวใหญ่ อายุ 7 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 1 ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี มีรอยเขียวช้ำทั่วตัวไม่มีบาดแผล เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง

นางบุญปรางค์ จักรี อายุ 50 ปี ยายน้องเจน เล่าด้วยความเศร้าโศกเสียใจน้ำตานองหน้าว่า น้องเจนเป็นเด็กกำพร้าพ่อและแม่ ตนและสามีนำมาเลี้ยงกำลังอยู่ในวัยน่ารัก แม้ครอบครัวฐานะยากจนต้องอาศัยปลูกเพิงพักรับจ้างตัดอ้อยหาเช้ากินค่ำไปวันๆ แต่พยายามเลี้ยงน้องเจนให้ดีที่สุด ขณะนอนเล่นในเปลได้ยินเสียงดังเปรี้ยง และคล้ายอะไรหล่นใส่หัวมองไปปลายเท้าเห็นน้องเจนล้มลง เสียงสุนัขร้องระงมก่อนเงียบไปและขาดใจตายทั้ง 3 ตัว ไม่รู้ทำไมฟ้าผ่าลงมาได้ทั้งที่ต้นสะเดาไม่ได้สูงใหญ่อะไรมากนัก

เวลา 5 โมงเย็นวันเดียวกัน ฝ่ายป้องกันเทศบาลอำเภอบ้านหมี่ และมูลนิธิสว่างอริโยธรรม-สถาน เดินทางไปยังโกดังเก็บน้ำมันเพื่อการเกษตร บริษัท อิทธิพระพร เทรดดิ้ง หมู่ 5 ต.หนองเต่า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี หลังจากพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำรุนแรง หลังคาเมทัลชีทของบริษัทปลิวไปตามลมไกลกว่า 400 เมตร และมีผู้ถูกหลังคาทับติดอยู่ในรถยนต์ยังออกมาไม่ได้ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุต้องพบอุปสรรคต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับเส้นทาง ต้องระดมพลช่วยกันตัดต้นไม้ออกอย่างทุลักทุเล เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบโครงหลังคา และแผ่นเมทัลชีทกระจายเกลื่อน นางมณีรัตน์ ปัญญา อายุ 56 ปี ผู้ดูแลเล่าว่า ก่อนฝนตกมีพายุหมุนพัดมารุนแรงทุกคนต่างวิ่งหนีเข้าไปภายในบ้านเอาชีวิตรอด แต่ยังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากโครงหลังคาอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ช่วยกันรื้อซาก กระทั่งพบชาย 2 คนนอนหลบอยู่ในรถกระบะ

นายคุณากร แจ่มโพกุล อายุ 34 ปี คนงานที่ติดอยู่รถกระบะเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุพายุหมุนเสียงลั่นของโครงหลังคาดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ตกใจมากไม่รู้ว่าจะวิ่งไปหลบที่ไหนดี เพราะมีแต่เศษสิ่งของปลิวกระจายเกลื่อน ก่อนจะถูกหลังคาทับ เพื่อนคนงานได้ตะโกนเรียกให้เข้าไปหลบในรถกระบะ จากนั้นเห็นโครงหลังคาถูกลมหอบมาหล่นโครมใส่รถจนมองอะไรไม่เห็น โชคดีที่ไม่ได้รับอันตราย แต่ยอมรับว่าตกใจสุดขีด ในชีวิตไม่เคยเห็นพายุพัดรุนแรงขนาดนี้มาก่อน จากการประเมินความเสียหายในเบื้องต้นคาดไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

Cr: ไทยรัฐออนไลน์

แหล่งที่มา https://www.thairath.co.th/news/local/central/2073505

STABIL
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.